กล่าวกันว่าศาลเจ้าคาโทริ (Katori Jingū) นั้นสร้างขึ้น 643 ปีก่อนคริสตศักราช ทำให้เป็นศาลเจ้าชินโตที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น และยังเป็นศาลเจ้าหลักของศาลเจ้าคาโทริ (Katori Jinja) ที่มีอยู่ทั่วประเทศกว่า 400 สาขา ศาลเจ้าคาโทริเป็นที่สถิตย์ของเทพฟุตสึนุชิโนะมิโกะโตะ เทพเจ้าแห่งดาบ ผู้ได้รับการเคารพเป็นอย่างสูงว่าเป็นเทพที่มีความแข็งแกร่งที่เป็นผู้สร้างและปกป้องประเทศญี่ปุ่น ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนยุคสมัยเมจิ (1868-1912) มีศาลเจ้าเพียงสามแห่งเท่านั้นที่ได้รับสถานะว่า “จิงงู” ซึ่งเป็นวิธีเรียกศาลเจ้าชินโตในประวัติศาสตร์ที่มีความเชื่อมโยงกับจักรพรรดิ และศาลเจ้าคาโทริก็เป็นหนึ่งใน 3 ศาลเจ้านั้น คุณจะเห็นว่าศาลเจ้าคาโทริเป็นศาลเจ้าที่มีระดับสูงอย่างไรจากคำบรรยายดังต่อไปจากนี้

อาคารหลักของศาลเจ้าคาโทริ, โทริอิ, ห้องสวดมนต์ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ.1700 ระหว่างยุคเอโดะ (1603-1867) หลังคาของอาคารหลักสร้างโดยใช้วิธีการที่เรียกว่าฮิวะดะบุกิ (การมุงหลังคาโดยใช้เปลือกสนไซเปรสญี่ปุ่น) อันเป็นหนึ่งในเทคนิคทางสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์และหาเทียบเคียงได้ยาก ซึ่งการสร้างหลังคาที่งดงามเป็นอย่างมากนี้ได้ทำให้ศาลเจ้าโดยรวมมีความสง่างามที่แตกต่างออกไป ศาลเจ้าคาโทริยังเป็นที่เก็บสมบัติแห่งชาติหนึ่งชิ้นเอาไว้อีกด้วย นั่นก็คือไคจูบุโดเกียว (เป็นกระจกที่มีลวดลายสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมและเถาองุ่น) ซึ่งเป็นหนึ่งในสามกระจกที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น

[ในฤดูใบไม้ร่วง, พื้นของศาลเจ้าคาโทรินั้นปกคลุมไปด้วยกลีบของดอกซากุระและใบไม้สีเขียวสดใส ขณะที่ในฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้ก็เปลี่ยนสีไปเป็นหลากสีสัน ดึงดูดผู้คนและนักท่องเที่ยวมาที่ศาลเจ้าตลอดปี

ศาลเจ้าคาโทรินั้นตั้งอยู่ห่างจากสถานีJRซาวาระ 4 กิโลเมตร สำหรับผู้ที่ต้องการไปเยี่ยมชมศาลเจ้าคาโทริ มีรถบัสที่ไปศาลเจ้าคาโทริให้บริการในวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์

วัดคัมปุกุจิ ตั้งอยู่ห่างจากสถานี JR ซาวาระโดยการเดินเท้า 20 นาที เป็นวัดในนิกายบุซันของศาสนาพุทธชินงอง เชื่อว่าเป็นวัดที่ทำพิธีปัดรังควาญที่ยิ่งใหญ่ที่สุด 1 ใน 3 ในเขตคันโตควบคู่ไปกับคาวาซากิไดชิ และนิชิอะไรไดชิ วัดขนาดใหญ่แห่งนี้ถูกสร้างมากว่า 1,100 ปีก่อน และห้องโถงปัจจุบันทั้งหมดไม่นับรวมห้องโถงที่มีบิชามงสถิตย์อยู่ที่ถูกสร้างขึ้นมากว่า 1 ศตวรรษแล้ว สมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญ, รวมถึงรูปปั้นปางสมาธิของพระศากยะมุนีตถาคต ก็ถูกเก็บรักษาอยู่ในวัดนี้ วัดคัมปุกุจิยังเป็นสุสานของอิโน ทะดะทะกะ (1745-1818), ชายผู้เดินทางด้วยเท้าไปทั่วญี่ปุ่นเพื่อสร้างแผนที่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงยุคเอโดะ (1603-1867) วัดคัมปุกุจิยังเลื่องชื่อในด้านความงามสี่ฤดูของญี่ปุ่นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ต้นไม้ในฤดูร้อนที่ออกใบสีเขียวสะพรั่ง และใบไม้หลากสีสันในฤดูใบไม้ร่วง

ศาลเจ้าสุวะตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำโอะโนะ ห่างจากสถานี JR ซาวาระ 8 นาที ศาลเจ้าสุวะนั้นสร้างขึ้นมาเมื่อประมาณปีคศ 1694, ขณะที่คนท้องถิ่นเริ่มต้นพัฒนาที่ดินในฝั่งตะวันตกของแม่น้ำโอะโนะและเริ่มบูชาเทพเจ้าทาเคมินะกะตะโนะมิโกะโตะ, เทพเจ้าแห่งสงคราม ในฐานะเทพผู้พิทักษ์ดินแดนแห่งนี้เอาไว้ อาคารหลักของศาลเจ้าถูกสร้างขึ้นในปี 1853

งานเทศกาลใหญ่ซาวาระฤดูใบไม้ร่วง ที่จัดทุกปีในเดือนตุลาคม ถูกจัดขึ้นโดยศาลเจ้าสุวะ ในช่วงเทศกาลดังกล่าว รถลากที่ตกแต่งอย่างงดงาม 14 คันก็จะออกมาเคลื่อนขบวนไปบนถนนให้ชม โดยมีอีกงานหนึ่งที่จัดขึ้นในฤดูร้อน, คือเทศกาลใหญ่ซาวาระในฤดูร้อนที่จัดโดยศาลเจ้ายาซากะ ทั้งสองงานเทศกาลนั้นได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐบาลให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมพื้นบ้านไร้รูปร่างที่มีความสำคัญควบคู่กันไป

ตามอย่างศาลเจ้ายาซากะของเกียวโต(เดิมทีเรียกว่าศาลเจ้ากิออน) ศาลเจ้ายาซากะของเมืองคาโทริ ได้เริ่มเป็นสถานที่ที่บูชาโกะซูเทนโน, เทพที่เชื่อว่าเป็นผู้ดลบันดาลให้เกิดโรคระบาด ที่ผู้คนรู้สึกหวาดกลัว จึงได้มีการบูชาเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดโรคระบาด อย่างไรก็ตาม ในปีค.ศ.1868 มีกฤษฎีกาประกาศออกมาให้แยกชินโตและพุทธศาสนาออกจากกัน สิ่งก่อสร้างที่สร้างขึ้นเพื่อสักการะโกะซูเทนโนจึงได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็นศาลเจ้ายาซากะ และโกซูเทนโนเปลี่ยนเป็น สุซะโนะโอะโนะมิโกะโตะซึ่งเทียบเท่ากับโกซูเทนโนในเวอร์ชั่นของชินโต

ศาลเจ้ายาซากะเป็นผู้จัดงานเทศกาลใหญ่ซาวาระในฤดูร้อน หรือกิออนมัตสึริ ในวันศุกร์, เสาร์, และอาทิตย์ถัดจากวันที่ 10 กรกฎาคม โดยในช่วงนั้นจะมีรถลากอันงดงามทั้งหมด 10 ขบวนแห่ไปตามถนน งานเทศกาลใหญ่ซาวาระฤดูร้อน ควบคู่ไปกับงานเทศกาลใหญ่ฤดูใบไม้ร่วงที่จัดโดยศาลเจ้าสุวะ ได้รับการกำหนดโดยรัฐบาลให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมพื้นบ้านแบบไร้รูปร่างที่มีความสำคัญ ศาลเจ้ายาซากะนั้นห่างจากสถานี JR ซาวาระโดยการเดินเท้า 10 นาที



COPYRIGHT SUIGO-SAWARA TOURIST ASSOCIATION ALL RIGHTS RESERVED.

HOME